ได้ยินชื่อบางคนคงอาจไม่อยากไปกัน นาแห้วชื่อก็ไม่ค่อยน่าเที่ยวแล้ว แต่อำเภอนี้มีความเงียบสงบและความสวยงามของธรรมชาติรอให้ไปเยี่ยมเยียน เหมาะกับคนที่อยากจะหาที่สงบๆอากาศเย็นๆพักกายพักใจซัก 2 คืน
เราออกเดินทางจาก อ.ภูเรือ จ.เลย ใช้เวลาไม่นานก็ถึง โดยใช้ทางหลวงเส้น 2114 ต่อเข้าหมายเลข 2195 วิ่งเลียบชายแดนลาวมาเรื่อย วิวภูเขาสวยดีครับ เส้นแบ่งประเทศไทย - ลาว ก็มีแม่น้ำเล็กๆคั่น สังเกตได้เลยว่าภูเขาฝั่งลาวนี่ต้นไม้แน่นมาก แต่ก่อนมาเส้นทางนี้แนะนำให้ตรวจสภาพรถ ยาง เติมน้ำมันให้เรียบร้อยนะครับ ถึงแม้ถนนจะเรียบดีตลอดเส้นทาง แต่แทบไม่เจอผู้คนเลย ไม่เจอปั๊มน้ำมัน ขับเส้นนี้ประมาณ 45 นาทีนับรถสวนกันและขับตามมาได้ไม่เกิน 10 คัน
1.

เราเข้าพักที่ทัศนีย์รีสอร์ท รีสอร์ทเล็กๆสบายๆ คืนละ 600 เอง แต่นับว่าเรียบร้อยได้มาตรฐานในระดับนึงเลย แอร์ไม่ต้องเพราะอากาศที่นี่ตอนกลางคืนเย็นสะท้านอยู่แล้ว ตัวบ้านสะอาดอุ่นดี มีลานทำกิจกรรมเล็กๆได้ และเงียบจนได้ยินเสียงสัตว์อะไรต่อมิอะไรที่อยู่ไกลๆได้เลย
2.

เข้าที่พักเรียบร้อยเราก็วางแผนขับรถเล่นตามแผนที่ที่รีสอร์ทให้มา เข้าที่แรกเลยคือวัดศรีโพธิ์ชัย วัดเก่าแก่อายุหลายร้อยปีแล้ว
3.

4.

5.

ภายในอุโบสถมีพระประธานที่มีชื่อเรียกกันว่าหลวงปู่ใหญ่ สวยดีครับ
6.

กราบพระ = ='
7.
เสร็จแล้วไปต่อกันที่อุทยานแห่งชาติภูสนทราย มันจะขับรถวนรอบอุทยานได้นะครับ เลยมาหยุดชมวิวแสงสุดท้ายที่จุดชมวิวภูหัวฮ่อม จริงๆในเอกสารท่องเที่ยวจะแนะนำว่าเป็นที่ดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่จากที่คุยกับคนในพื้นที่ตอนกินข้าว เค้าแนะนำให้ไปผาหมวกแทน เราก็เชื่อเค้า วัดดวงกันไปเลย ปล่อยเด็กวิ่งเล่นบนลานหญ้าของอุทยานในอากาศเย็นๆ ชิลดี
8.

พระอาทิตย์ตกที่ภูหัวฮ่อม จะเห็นยอดเขาหลายๆที่เลยนะครับ รวมถึงภูกระดึงด้วยก็เห็นจากจุดนี้
9.

วันนั้นพระอาทิตย์เต็มดวงพอดี จากบนอุทยาน
10.

อำเภอนาแห้วเป็นอำเภอเล็กมากๆครับ ขับรถผ่านอำเภอได้ภายใน 2 นาที ไม่มีร้านสะดวกซื้อ แต่ก็มีร้านขายของชำของชาวบ้าน ค่ำจะมีร้านอาหารแค่ 2 ร้านครับ ใครกินยากก็เตรียมเสบียงไปหน่อย แต่ถ้าสบายๆก็สั่งร้านตามสั่งได้ครับ รสชาติดีเลยทีเดียว
ทั้งอำเภอตอนค่ำมีร้านค้าแค่ตรงนี้ล่ะครับ
11.

อากาศเย็นๆ อะไรจะสุขไปกว่าข้าวราดไข่ระเบิดร้อนๆ
12.

เข้าที่พักนอนเอาแรง อากาศตอนค่ำเย็นสบายๆเราเลยแง้มหน้าต่างห้องพักไว้หน่อย ที่ไหนได้ตอนดึกต้องลุกมาปิดหน้าต่างสนิทกันเลย หนาวมาก ยิ่งดึกยิ่งหนาว
เช้ามีภาระกิจไปผาหมวกตามที่ชาวบ้านแนะนำ ขับรถนิดเดียวเองครับ แต่ต้องเดินขึ้นเขาไปประมาณ 700 เมตร เอาเรื่องเหมือนกันถ้าต้องมีเด็กเล็กที่ต้องอุ้มและขาถ่ายภาพที่มีอุปกรณ์ไปด้วย แนะนำว่าติดชุดเบาที่สุดไปครับ จุดแรกคือประมาณ 700 ม. แต่ถ้าอยากไปต่อ ก็จะมีอีกจุดที่ต้องเดินไปอีกประมาณ 800 ม. ซึ่งจะเป็นจุดชมวิวเห็น 360 องศา ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะไปตรงนั้นล่ะครับ แต่พอเดินจริงก็ไม่รอด สรุปจอดแค่จุดแรก
แต่เท่านี้ก็เพียงพอครับ เพราะเราสามารถเห็นวิวทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งผมว่าดีกว่าภูหัวฮ่อมนะ คิดว่าตัดสินใจถูกที่เชื่อชาวบ้านครับ แต่อาจต้องเดินผ่านป่าหาจุดชมวิวซักหน่อย มาถึงก็เจอวิวนี้เลย หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
13.

14.

15.

วิวอีกด้านที่เป็นฝั่งตัวอำเภอ ทะเลหมอกอลังไม่แพ้กัน
16.

17.

ถ้ามีแรงเดินไปต่อ ก็จะไปยืนอยู่ตรงยอดนั่นล่ะครับ
18.

บนยอดผาหมวกจะเห็นหมอกถูกลมพัดเคลื่อนข้ามยอดเขาตรงที่เรายืนอยู่ แสงเช้าลงยอดไม้นี่สวยจริง ยืนดูตรงนี้ได้ทั้งวัน
19.

สายแล้ว เดินลงล่ะครับ เดินลงต่ำเรื่อยๆเราก็จะมาอยู่ในระดับเดียวกับหมอก แสงเช้าทะลุผ่านลงมาเป็นลำ เห็นแบบนี้ได้ตลอดทาง
20.

21.

ขับรถออกนอกเมืองต่อ เสียดายที่มาในหน้าหนาวที่ไม่มีนาข้าวเขียวๆให้ดูแล้ว ถ้าช่วงปลายฝนที่หมอกหนาและยังมีข้าวเต็มนาที่นี่คงสวยมาก ไม่รู้จะมีโอกาสได้กลับมาอีกเมื่อไหร่ ถ้าอยู่ห่างจากกรุงเทพฯซัก 3 ชั่วโมงนี่จะมาทุก 2 เดือน แต่หน้าหนาวก็จะสวยไปอีกแบบ
22.

จอดตรงนี้เพราะรู้สึกเหมือนปางอุ๋ง ถ้าแสงลงปลายแหลมนั่นหน่อยล่ะใช่เลย
23.

ระหว่างทาง ถ้าตรงหน้าเป็นนาข้าวเขียวๆคงสวยน่าดู ไว้มาใหม่
24.

มุมมาตรฐาน เอาซะหน่อย ฮา
25.

ก่อนกลับแนะนำให้แวะตลาดนะครับ เป็นจุดผ่อนปรนชายแดน ก็มีสินค้าขายพอควร ที่ชอบคงเป็นเม็ดแมคคาเดเมีย กับถั่วคั่ว มันสะใจมาก ถ้าเข้าไปหลังร้านจะเจอที่เค้ากำลังคั่วใหม่ๆเลย เป็นถั่วคั่วทรายร้อนๆ เพิ่งได้กินถั่วที่คั่วเสร็จใหม่ๆนี่อร่อยแบบหยุดไม่ได้เลย ถ้าไม่ขับรถต่อนี่เบียร์ซักขวดจะแจ่มมาก
26.

จบทริปนาแห้วสั้นๆ 1 คืนครับ เราเดินทางกลับมาเขาค้อพัก 1 คืนก่อนกลับกรุงเทพฯ เดี๋ยวจะทำรูปชุดเขาค้ออีกที
ขอปิดท้ายอำเภอนาแห้ว อำเภอเล็กๆน่ารักๆด้วยรูปนี้ครับ ทะเลหมอกที่ผาหมวก
27.

อุปกรณ์ Df , Nik 20 1.8 , Sigma 35 1.4 , Nik 58 1.4 , 85 1.8 , Tamron 70-300 vc